Saturday, June 30, 2018

ช่องทางไลน์ (Line) ปรึกษาเรื่องการดูแลสุขภาพด้วยศาตร์แพทย์วิถีธรรมกับจิตอาสาแพทย์วิถีธรรม

คำถาม 
ช่องทางไลน์ (Line) ปรึกษาเรื่องการดูแลสุขภาพด้วยศาสตร์แพทย์วิถีธรรมกับจิตอาสาแพทย์วิถีธรรม


ตอบ 
 
 1. กลุ่มไลน์ Line  ค่ายสุขภาพ หมอเขียว (สวนป่านาบุญ 1 อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร)
 


2. กลุ่มไลน์ Line  สวนป่านาบุญ 2  (สวนป่านาบุญ 2 อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช)

      
3. กลุ่มไลน์ Line ค่ายย่อยวันหยุด (สวนป่านาบุญ 3 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี)


4.กลุ่มไลน์ Line ค่ายหมอเขียว หัวหิน (สวนป่านาบุญ 7 อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์)

5. กลุ่มไลน์ Line ยาเก้าเม็ดเหนือ  (ทีมงานจิตอาสาภาคเหนือ)

6.กลุ่มไลนด์ชมรมสุขภาพพวธUSA-EU
  

 
7.กลุ่มไลน์ Line ชมรมสุขภาพพวธ DFW (ดัลลัส  USA)



8. กลุ่มไลน์ Line ชมรมสุขภาพพวธCA (แคลิฟอร์เนียร์  USA)

          สำหรับสมาชิกใหม่ในไลน์กลุ่ม
         มีข้อปฏิบัติร่วมกันดังนี้
   1 ไม่โพสเรื่องไร้สาระเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับสุขภาพ
   2 ไม่มีสวัสดีวันจันทร์และทุกๆวันและส่งcardใดๆไม่เกี่ยวกับสุขภาพ
   3 เพื่อประโยชน์ต่อผู้เจ็บป่วยที่อยู่ในไลน์จะได้สะดวกในการอ่านและค้นหา
    เรื่องสุขภาพที่โพสต้องมีที่มาที่เชื่อถือได้ มีแหล่งที่มาถูกต้องและให้เกี่ยวข้องกับแพทย์วิถีธรรม
    4.จะเน้นการดูแลสุขภาพแนวแพทย์วิถีธรรมกับยา9เม็ดเป็นหลักเพื่อให้เป็นแนวทางเดียวกัน
ก่อนที่จะโพสโปรดพิจารณาด้วย
   5 ไม่มีแชร์ลูกโซ่ เรื่องไร้สาระข้อความดูหมิ่น สถาบันและบุคคลอื่นๆเรื่องการเมืองข้อความยุยงแตกแยกทางศาสนา เชื่อในความดีที่ทำ และไม่โฆษณาธุระกิจใดๆในไลน์นี้
   6 ท่านใดเชิญเพื่อนเข้ามาขอให้แจ้งกติกาของกลุ่มด้วย
   8 ผิดระเบียบ 3 ครั้งจะขอเชิญออกจากกลุ่มทันที

                       เจริญธรรม สำนึกดี




Friday, June 29, 2018

อยากสมัครเข้าค่ายสุขภาพแพทย์วิถีธรรมทำอย่างไร

คำถาม
อยากสมัครเข้าค่ายสุขภาพแพทย์วิถีธรรม ทำอย่างไร 

ตอบ 

1.ท่านเข้าไปดูในตารางการจัดค่ายสุขภาพได้ที่
 http://www.morkeaw.net/ (คลิ๊ก) (ใช้ได้ทุกปี)
และ
(คลิ๊ก)https://morkeaw-course2562.blogspot.com/ (ชื่อลิงค์นี้เฉพาะปี พ.ศ. 2562)

2. เลือกรายการที่ท่านสนใจ
3. ทำการสมัครตามวิธีที่ระบุในประชาสัมพันธ์
4. ศึกษาคู่มือการเข้าค่ายที่มีในลิงค์ ให้เข้าใจก่อนการเข้าค่าย



ซื้อหนังสือ ซีดี และผลิตภัณฑ์ของเครือข่ายหมอเขียวได้ที่ไหนบ้าง

คำถาม
ซื้อหนังสือ ซีดี และผลิตภัณฑ์ของเครือข่ายหมอเขียวได้ที่ไหนบ้าง


ตอบ 
สามารถสั่งซื้อและส่งให้ทางไปรษณีย์ได้ที่
1. สวนป่านาบุญ 1 อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร 
    ติดต่อ 
    สวนป่านาบุญ1 088-2965074
    Line Id: panitsuanpa1
    


2. สวนป่านาบุญ 2 อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
    ติดต่อ คุณรวย 081-084-5469 


เดินทางซื้อด้วยตนเอง

1.ในค่ายสุขภาพแพทย์วิถีธรรม ที่จัดตามตาราง ในเวบ
   www.morkeaw.net 
       หรือ
http://morkeaw-course2562.blogspot.com/

2. สวนป่านาบุญ 1 อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร 
    ติดต่อสอบถาม
    สวนป่านาบุญ1 088-2965074
    Line Id: panitsuanpa1
    

3. สวนป่านาบุญ 2 อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
    ติดต่อสอบถาม คุณรวย 081-084-5469

4. สวนป่านาบุญ 3 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
    ติดต่อสอบถาม คุณตา 085-2205181
   
5. กองบุญภาคเหนือ จ.เชียงใหม่
    ติดต่อสอบถาม คุณเล็ก 089-4449064

6.ร้านแพทย์วิถีธรรม ซ.นวมินทร์ 46 เขตบึงกุ่ม จ.กรุงเทพฯ.
    วันทำการเปิด
    วันพฤหัสบดี  - วันศุกร์ เปิดร้าน เวลา  10.00 น. - 16.00 น.
    วันเสาร์ - วันอาทิตย์    เปิดร้าน  เวลา  07.00 น.- 17.00 น.
    ติดต่อสอบถาม  099-1212959



                                         กลับสู่หน้าหลัก (คลิ๊ก)

 


  

โรคกระเพาะอาหารและสำไส้อักเสบ

คำถาม
โรคกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบแก้ไขอย่างไร



ตอบ 
 คนส่วนใหญ่ที่ไปรับการรักษากับแพทย์แผนปัจจุบันสุดท้ายจะจบที่โรคมะเร็งกันทั้งนั้นเพราะส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคมะเร็งตับ จะเริ่มต้นจากการไม่สบายจากโรคกระเพาะอาหารและโรคลำไส้มาก่อนทั้งนั้น แต่สุดท้ายจะมาลงเอยที่โรคมะเร็ง เพราะว่าแพทย์แผนปัจจุบันรักษาโรคนี้กันไม่เป็น

#โรคกระเพาะอาหารและสำไส้เดิมทีนั้นมันเกิดจากภาวะเย็นเกิน พอเกิดจากภาวะเย็นเกินเมื่อร่างกายเย็นมากๆ เส้นเลือดจะหดตัว พอเส้นเลือดหดตัวเลือดลมก็จะเกิดการไหลเวียนไปลำบาก น้ำย่อยไหลไปลำบากจึงไม่สามารถย่อยอาหารที่กินเข้าไปได้ อาหารก็เลยไม่ย่อย เพราะน้ำย่อยหลังออกมาลำบากเลือดลมไหลเวียนไม่สะดวกทำให้กระเพาะไม่มีกำลังและไม่มีเลือดไปเลี้ยงพออาหารไม่ย่อยก็มีเชื้อโรคเข้ามากิน ทำให้เกิดกรด และแก๊สในกระเพาะขึ้น

#โดยธรรมชาติการหมักก็จะทำให้เกิดแก๊ส พอเกิดแก๊สขึ้นก็ทำให้ท้องอืด เกิดเป็นกรดขึ้นก็ไปกัดกระเพาะอาหารให้เป็นแผลและอักเสบ หากเป็นหมอแผนโบราณก็จะให้กินกล้วยดิบเข้าไปรักษาแผล และให้ขมิ้นชัน ขิง หรือยาร้อนเข้าไปเพื่อให้เกิดการขับลมออกและเพื่อให้เลือดลมไหลเวียนได้ดีขึ้นและคนไข้ก็จะหาย เพราะเมื่อใดที่เลือดลมไหลเวียนดี ก็จะไม่เกิดโรคทุกอย่างก็กลับมาทำงานตามปรกติหมด แต่ในยุคปัจจุบันนี้เกิดจากสภาวะร้อนเกินเป็นส่วนใหญ่

#เมื่อเกิดจากสภาวะร้อนเกินเป็นส่วนใหญ่ ร่างกายร้อนมากๆ ร่างกายก็จะระบายพลังงานความร้อนนั้นๆ ไปที่กระเพาะอาหารและลำไส้ เพื่อที่จะมีการระบายออกต่อตามเส้นกลางตัว ทางทวาร หรืออาจจะออกทางปาก ทางหัว ร่วมด้วยก็แล้วแต่โดยจะเห็นได้จากการที่คนไข้บางรายเป็นแผลในปากซึ่งนี้ก็คือการระบายความร้อนออกจากร่างกาย

#แต่ก่อนที่ร่างกายจะระบายก็จะออกไปร่วมกันที่กระเพาะก่อนจะกระจายออกตามที่ต่าง ๆ แต่หากความร้อนไปกองกันมากๆ และไม่สามารถระบายได้ทัน ความร้อนก็จะเผากระเพาะอาหารและสำไส้ของเรานั้นให้เปื่อยพุพอง เหมือนกับไฟไหม้น้ำร้อนลวกหากมีการส่องกล้องเข้าไปดูก็จะเห็นเป็นแผลแดง เปื่อย พุพอง

#เมื่อกระเพาะเกิดการบาดเจ็บก็ไม่สามารถทำงานได้ตามปรกติเมื่อกินอาหารเข้าไปอาหารก็ไม่สามารถย่อยได้ อาหารก็ค้างอยู่อย่างนั้น พออาหารค้างอยู่เชื้อโรคก็เข้าไปกินอาหารนั้น ทำให้เกิดแก๊ส เกิดกรดขึ้นมาอีก ทำลายกระเพาะและลำไส้เข้าไปอีก แผลที่มีอยู่แล้วมีการบาดเจ็บเพิ่มเข้าไปอีกคนที่มีกรดเยอะมาก ๆ กรดก็จะไปร่วมกันที่กระเพาะ เพื่อที่จะระบายต่อไปยังสำไส้ใหญ่แต่เมื่อกรดมีเยอะมากๆ ระบายไม่ทันก็ทำให้เกิดกรดไหลย้อนขึ้นมา ทำให้เกิดอาการจุกเสียด

#การรักษาของแพทย์แผนปัจจุบันก็จะรักษาโดยให้กินยาเคลือบกระเพาะเอาไว้เคลือบเอาความร้อนเอาไว้ เคลือบกรดเอาไว้ เคลือบของเสียเอาไว้ กินยาไปเคลือบเอาไว้เรื่อยๆ ทำให้กระเพาะเกิดการเน่าหมักหมม ความร้อนก็ยังอยู่และเคลื่อนไปทำลายตับเท่านั้นเอง เพราะความร้อนไม่สามารถระบายออกได้ต่อไปก็จะเกิดเป็นมะเร็งกระเพาะ หรือมะเร็งตับ หรือมะเร็วลำไส้เท่านั้นเอง


#การรักษาของหมอแพทย์วิถีพุทธ หรือหมอทางเลือก เมื่อรู้ถึงสาเหตุว่าเกิดจากความร้อนเราก็ใส่เย็นลดร้อน และให้กินกล้วยดิบเพื่อที่จะให้กล้วยนั้นไปสมานแผลและกล้วยดิบก็ มีฤทธิ์เย็น หรือให้กินน้ำต้นกล้วยก็ได้วิธีการกินก็คือนำกล้วยดิบมาตัดเป็น 3 ท่อน เพื่อที่จะแบ่งกินเป็น 3 เวลา ก่อนอาหาร เคี้ยวๆ ให้ละเอียดที่สุดแล้วก็กลืนเข้าไปได้เลยจะทำวิธีใดก็ได้ให้ละเอียดที่สุดแล้วก็กลืนเข้าไปเลย

#หากกลืนได้ยากก็ให้กินร่วมกับน้ำย่านางเข้าไปเพื่อให้กลืนได้ง่ายขึ้น หากสามารถกินได้ทั้งเปลือกได้ก็จะดีจะสามารถรักษาได้เร็วมาก ดีกว่ายาน้ำขาวทั่วไปมากนัก แต่ในกรณีที่ร้อนตีกลับเป็นเย็นคือ คนไข้มีอาการท้องอืดและหัวตื้อร่วมดัวย แต่ความเป็นจริงแล้วอาการท้องอืดหัวตื้นนี้เป็นอาหารเย็นเกิน เพราะ อาการร้อนเกินจะตีกลับเป็นเย็น

#เพราะแพทย์แผนจีนกล่าวไว้ว่า เมื่อ หยางที่สุดจะตีกลับเป็นหยิน และเมื่อหยินที่สุดจะตีกลับเป็นหยางเพราะฉะนั้น อาการท้องอืด หัวตัวก็คือร้อนสุดได้ตีกลับเป็นเย็นเมื่อเรากินเย็นอย่างเดียวก็ไม่สามารถรักษาได้เราก็ควรใช้ความร้อนร่วมด้วย

#ในการรักษาได้การกินเย็นผ่านไฟโดยการกดน้ำร้อนผสมกับน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็น แต่หากินแบบนี้แล้วยังมีอาการเย็นแทรกอยู่ก็ให้เราใส่สมุนไพร ฤทธิ์ร้อนเข้าไปเล็กน้อยเช่น ใส่ ขมิ้น ตะไคร้ หรือขิง เข้าไปในปริมาณที่เรารู้สึกสบาย ใส่แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ก็จะทำให้รู้สึกสบายขึ้นได้แต่ในสมัยก่อนการรักษาจะเน้นที่สมุนไพรฤทธิ์ร้อนในการรักษาจึงทำให้การรักษาในปัจจุบันไม่ได้ผล

ดร.ใจเพชร กล้าจน(หมอเขียว)
นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญกา
ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์วิถีธรรม
วิชชาธิการบดี สถาบันวิชชาราม


ที่มา: https://www.facebook.com/answermorkeaw2/photos/a.865894460215992.1073741828.865872563551515/871896806282424/?type=3&theater

ตัวบ่งชี้ภาวะร่างกายไม่สมดุล/เป็นโรค


คำถาม

ตัวบ่งชี้ภาวะร่างกายไม่สมดุล/เป็นโรค


ตอบ
1. กลิ่นกาย- ความเหนอะหนะจากเหงื่อ ยิ่งมีกลิ่นตัวแรงก็สัมพันธ์กับพิษที่สะสมในร่างกาย
2. กลิ่นปัสสาวะ
3. กลิ่นอุจจาระ- ถ้ามีกลิ่นได้อย่างมากความเหม็นแค่กลิ่นผักดอง
ลักษณะอุจจาระที่แสดงถึงสุขภาพดี- นิ่ม เป็นแท่งคล้ายๆ ข้าวหลาม
อุจจาระแข็ง- ร่างกายร้อนเกิน
อุจจาระนิ่ม – ร่างกายเย็นเกิน
4. กลิ่นผายลม
5. กลิ่นปาก
6. กลิ่นหู
7. กลิ่นผม หนังศีรษะ
8. กลิ่นจมูก
9. รังแค

ดร.ใจเพชร กล้าจน(หมอเขียว)
นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญกา
ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์วิถีธรรม
วิชชาธิการบดี สถาบันวิชชาราม


ที่มา:  https://www.facebook.com/answermorkeaw2/photos/a.865894460215992.1073741828.865872563551515/874812062657565/?type=3&theater


                                            กลับสู่หน้าหลัก (คลิ๊ก)

หลักพิจารณาประกอบการรับประทานยาเคมี

คำถาม
อยากทราบหลักพิจารณาประกอบการรับประทานยาเคมี




ตอบ 
 1. หยุดยาแล้วมีภาวะลำบากกาย ทุกข์ทรมานกายจนทนได้ยาก-ให้รับประทานยาต่อไป
2. รับประทานยาแล้วมีอาการไม่สบายกายจากยา-ให้ลดปริมาณยา
3. หยุดรับประทานยาแล้วมีอาการสบายกาย-ให้หยุดยา

ดร.ใจเพชร กล้าจน(หมอเขียว)
นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญกา
ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์วิถีธรรม
วิชชาธิการบดี สถาบันวิชชาราม


 ที่มา: https://www.facebook.com/answermorkeaw2/photos/a.865894460215992.1073741828.865872563551515/874831295988975/?type=3&theater

การพิจารณาการผ่าตัดกรณีเนื้องอกหรือเนื้อร้ายในร่างกาย

คำถาม
การพิจารณาการผ่าตัดกรณีมีเนื้องอกหรือเนื้อร้ายในร่างกาย



ตอบ 
1. ตัดเพื่อลดความปวด ความทุกข์ทรมานที่มีมาก
2. ตัดเพื่อช่วยบรรเทาอาการเช่น ลำไส้อุดตันมากถ่ายไม่ได้
3. ตัดเนื่องจากเกิดอวัยวะสำคัญอาจเกิดอันตราย เช่นเนื้องอกในสมอง

ดร.ใจเพชร กล้าจน(หมอเขียว)
นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญกา
ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์วิถีธรรม
วิชชาธิการบดี สถาบันวิชชาราม


ที่มา: https://www.facebook.com/answermorkeaw2/photos/a.865894460215992.1073741828.865872563551515/874846709320767/?type=3&theater



ทำไมต้องโยคะ กดจุดลมปราณ

คำถาม 
 ทำไมต้องโยคะ กดจุดลมปราณ

ตอบ
กายบริหารโยคะกดจุดลมปราณ เป็นยาเม็ดข้อที่ 6 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงมาก ในการดูแลร่างกายให้แข็งแรง รวมทั้งขับโรคภัยไข้เจ็บให้ออกจากร่างกายของเรา ถ้าเราออกกำลังกายแบบเคลื่อนไหว ร่างกายอย่างเดียว เราจะได้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ แต่จะไม่ได้ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ ถ้ากล้ามเนื้อไม่ยืดหยุ่น ของดีจะเข้าไปเลี้ยงเซลล์ไม่ได้ ของเสียจะออกไม่ได้ ทำให้เซลล์จะเสื่อม
   ถ้าเราไม่ดัดเนื้อ ดัดตัว ถ้าออกกำลังกายแบบเคลื่อนไหวเร็วอย่างเดียว มันจะทำให้กระดูก กล้ามเนื้อ เส้นเอ็นของเราบิดเบี้ยว ไม่เข้าที่เข้าทางเพราะมันจะมีกล้ามเนื้อบางส่วนเกร็งค้าง บางส่วนก็ยังไม่ได้เกร็งค้าง มันจะดึงกล้ามเนื้อ กระดูก เส้นเอ็นให้บิดเบี้ยว กดดันเส้นเลือด เส้นประสาท เส้นลมปราณ เมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็จะไม่สบาย ไม่แข็งแรง เราจึงต้องมีการดัดเนื้อ ดัดตัว จัดโครงสร้างกระดูกเส้นเอ็นให้เข้าที่เข้าทาง เลือดลมจะได้ไหลเวียนสะดวก เราก็จะได้แข็งแรง
  ซึ่งในเรื่องของลมปราณเป็นเรื่องสำคัญมาก 12 เส้นลมปราณเป็นเส้นที่สำคัญ เป็นจุดที่พลังที่เป็นประโยชน์เคลื่อนเข้าไปเลี้ยงร่างกาย ทั้งพลังงานที่อยู่ภายในและพลังงานที่อยู่ภายนอก วิญญาณของเราก็จะดูดไปเลี้ยงร่างกายทางนั้นแหละ แล้วก็พลังงานที่เป็นของเสียจะถูกขับออกจากร่างกายทางเส้นลมปราณเช่นเดียวกัน จึงมีส่วนสำคัญอย่างมากในเส้นลมปราณ การฝังเข็มก็จะระบายพิษได้ในจุดใดจุดหนึ่งส่วนหนึ่ง ซึ่งก็แน่นอนมันก็มีผลทั้งตัวนั่นแหละ แต่ว่ามันก็ระบายแค่จุดเดียว แต่การกดจุดเส้นลมปราณนั้น จะระบายได้เยอะกว่า มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าการฝังเข็มเป็นหมื่น ๆ ดอก
  ในเรื่องของลมปราณนี่ ผมเคยกดจุดช่วยผู้ป่วยมา เยอะนะครับ การกดจุดลมปราณ หรือการดัดตัวให้เข้าที่ ผู้ป่วยฉุกเฉินอาการรุนแรง หรือผู้ป่วยอาการเรื้อรังก็ทุเลาได้เร็ว เราเคยชุบชีวิตผู้ป่วยที่ใกล้ตายมาเยอะครับ แล้วก็ฟื้นได้ภายใน 10 นาที เป็นส่วนใหญ่ แม้แต่ผู้ป่วยเรื้อรังก็ฟื้นได้ หมอนัดผ่าตัดต่าง ๆ ก็ไม่ต่อผ่าเยอะ ด้วยการกดลมปราณ ดัดเนื้อดัดตัว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ที่เราจะต้องฝึกฝนเรียนรู้กันให้เป็นวิถีชีวิตปกติของเรา
   ในเรื่องของลมปราณนั้น มันไม่ได้มีเฉพาะในหนังจืน ทีแรกเราก็นึกว่ามีแต่ในหนังจีน จี้จุดชักแล้วก็ไปไม่ได้ แล้วก็มีคนมาแก้  ชึกชักแลล้วก็ขยับได้ ผมว่ามีแต่ในหนังจีนแหละ นึกว่าไม่มีจริง แต่พอในชีวิตจริงนี่ ผมเคยไปกดเส้นลมปราณ โดนกดเองด้วยนะ ครูบาอาจารย์สอน ตอนที่เราหายใจไม่ออกอยู่เป็นเดือน กดเส้นลมปราณเส้นเดียว หายใจได้ มีผู้ป่วยหลายท่าน เรากดเพียงเส้นเดียวเท่านั้น ยังไม่ครบ 12 เส้น ก็หายแล้ว มันมีประสิทธิภาพมาก ผมก็เลยออกแบบไว้ในวิซีดี 1 ชั่วโมง กับ 2 ชั่วโมง เพื่อให้คนพึ่งตนเองได้ ไม่เช่นนั้น คนก็จะมาให้หมอรักษา คือ ถ้าไม่มีหมอคนใดคนหนึ่ง คนไข้ก็จะแย่ แต่ถ้าเค้าทำเองเป็น เค้าก็จะมีหมอติดตัวเค้าตลอดเวลานะครับ อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ จึงควรออกกำลังกาย 2 อย่าง ควบคู่กันไป วันที่เราไม่มีเวลา เราก็เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ หรือตอนเช้าเดินเร็ว วันหน้ากดลมปราณโยคะ อย่างนี้เป็นต้น นะครับ หรือเรามีเวลาน้อย ๆ เราก็สามารถที่จะเลือกทำบางท่าที่ทำให้ร่างกายแข็งแรงก็ได้ อันนี้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ 




คลิป กดจุดลมปราณ 2 ชั่วโมง (คลิ๊ก) 
https://youtu.be/r8_PvGAiQLUยคะ 2 ชม.
https://youtu.be/s7ywOh0Ig9U โยคะ 1 ชม.
https://youtu.be/kn02Frz2yMk กายบริหารและโยคะแขน 18.41 นาที
https://youtu.be/FBzaJrnZdww โยคะกดจุดลมปราณที่ขา 18.09 นาที
https://youtu.be/vCuQIyyaUMM โยคะยืดหยุ่นท่านอน 11.33 นาที


Friday, June 22, 2018

น้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นทำอย่างไร

คำถาม  น้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นทำอย่างไร


ตอบ
ทำวัตถุดิบและวิธีการทำได้ที่ลิงค์

 http://www.morkeaw.net/k-technic.html

 http://morkeaw-herbdrinking.blogspot.com/




Sunday, June 10, 2018

มีค่าใช้จ่ายในการเข้าค่ายสุขภาพแพทย์วิถีธรรมเท่าไหร่

คำถาม
มีค่าใช้จ่ายในการเข้าค่ายเท่าไหร่

ตอบ
ค่ายสุขภาพแพทย์วิถีธรรม (หมอเขียว) ทุกค่าย อบรมให้ฟรี
ทั้งค่าอาหาร และที่พักฟรี
รายละเอียดตารางเข้าค่ายและวิธีการสมัครเข้าค่ายในที่
http://www.morkeaw.net/ 


Tuesday, June 5, 2018

คำถามเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้

คำถาม
 คนเป็นโรคภูมิแพ้เยอะมาก คนนั้นก็แพ้อย่างโน้นอย่างนี้
ดิฉันก็เป็นค่ะ มีน้ำมูกรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจจังค่ะ เมื่อก่อนไม่ค่อยทุกข์ค่ะ ชอบเบลอๆ ง่วงๆ ซึมๆ ตึงขมับ ทำอย่างไรดีคะ
ขอความกรุณาท่านอาจารย์ตอบด้วยค่ะ ?

คำตอบ 

ภูมิแพ้จะมี 3 ลักษณะ ใหญ่ ๆ
๑. ภูมิแพ้ผื่นคัน
๒.ภูมิแพ้หอบหืด
๓.ภูมิแพ้เป็นหวัด
๑. ภูมิแพ้ผื่นคัน เกิดจากร่างกายร้อนมาก แต่ร่างกายของคนนี้มีกลไกลขับพิษไปทางผิวหนัง ร่างกายก็จะมีการระบายความร้อนออกไปทางผิวหนังก็จะเกิดการเสียดสีกับเนื้อเยื่อ เสียดสีระบบประสาทที่ผิวหนัง พอเกิดการเสียดสีก็จะเกิดการระคายเคือง พอเกิดการระคายเคืองร่างกายก็จะส่งน้ำไปดับไฟ พอส่งน้ำไปดับไฟก็จะเป็นปื้นขึ้นมา จากระคายก็จะมีอาการคัน บางครั้งก็จะมีอาการเป็นตุ่มน้ำใส หรือเป็นหนอง
หากเป็นมากกว่านั้นก็จะเป็นผิวหนังอักเสบ หากเป็นมากว่านั้นก็จะเป็นหนังแข็ง มากขึ้นไปอีกก็จะมีการติดเชื้อ อาจจะเป็นเริม เป็นงูสวัด หรือการติดเชื้อรา หรือเป็นสะเก็ดเงิน จะเป็นการติดเชื้อสารพัดรูปแบบ เป็นต้น
วิธีการรักษา ของหมอแผนปัจจุบันก็จะใช้คาลาไม ไปใส่มันจะเย็นและอาการคันก็ลดลงเพราะว่ามันเย็น ความร้อนถูกซับออกมาพอไม่มีพลังงานร้อนตรงจุดนั้นอาการคัดก็จะลดลงเป็นธรรมดาและอาการอักเสบต่างๆ ก็จะลดลง ตามความเป็นจริงเราไม่จะเป็นต้องใช้คาลาไม อย่างเดียว
เราสามารถใช้อะไรก็ได้ที่มีฤทธิ์เย็น เอาไปวางได้หมด เช่น น้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็น เอาไปทา หรือเอากากของสมุนไพรฤทธิ์เย็นไปพอกไว้ก็ได้หรือนำน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นไปผสมแป้งแล้วเอาไปทาก็สามารถทำได้ หรือผสมดินสอพอง หรือ ผสมปูนแดง ก็ได้ หรือผสมน้ำปัสสาวะ (ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรค) ก็ได้ อะไรที่ มีฤทธิ์เย็นต่างๆ แค่เอาไปแปะไว้ก็ทำให้หายได้ เพราะความเย็นจะไปซับพิษซับความร้อนที่ผิวหนังออกไปจึงทำให้ผื่นคันนั้นๆ ยุบไป

๒. ภูมิแพ้แบบหอบหืด เกิดจากร่างการที่ร้อนมากๆ จากภายในและร่างกายมีการระบายพิษร้อนออกมาทางปอดแต่ฤทธิ์ร้อนนั้นไม่สามารถมารถระบายได้ทัน และพิษร้อนนั้นก็ออกมาทางจมูกทางลมหายใจ เมื่อระบายออกไม่ทันพิษร้อนก็จะเผาปอด เผากล้ามเนื้อปอด และหลอดลมเหล่านั้นให้เกร็งค้าง ทำให้เลือดลมบริเวณนั้นๆ ไหลเวียนไม่สะดวก พอเลือดลมไหลเวียนไม่สะดวกก็จะเกิดการหอบขึ้นมา
การแก้ไข ก็แค่ใส่เย็นเข้าไปเพื่อไปลดความร้อนอาจจะมีการ กัวซาร่วมด้วยบริเวณหลัง หน้าอก แขน หรือบริเวณได้กระดูกไหปลาร้า บ่า ให้เน้น กัวซา บริเวณจุดลมปราณของปอด ให้มากๆ เพื่อเป็นการระบายพิษร้อนออกให้มากที่สุด พร้อมๆ กับการถอนพิษร้อนออกไปให้มากที่สุด อาการต่างๆ ก็จะหายไป
หากผู้ป่วยมีอาการหอบมากๆ อาจจะให้กินน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นผสมกับถ่าน ฉี่ และน้ำมันเขียวมรกต แล้วให้ผู้ป่วยกินได้เลยเพื่อเป็นการถอนพิษร้อน ที่เร็วขึ้น พอพิษร้อนได้ถูกถอนออกร่างกายก็จะไม่มีความร้อนไปเผากล้ามเนื้อ หลอดลมก็จะคลายตัว ไม่มีการกดรัดเส้นเลือด เมื่อเลือดลมสามารถไหลเวียนได้ดี อาการหอบหืดก็จะหายไป
                    ในกรณีคนที่นอนกรน การนอนกรนก็เป็นน้องของหอบหืด เกิดจากความร้อนเผาปอดเหมือนกันแต่ก็ไม่ถึงกับขั้นหอบหืด แค่ขั้นหายใจลำบากเท่านั้นเองเมื่อเลือดลมไหลเวียนไม่สะดวก ก็จะมีการหายใจทางปากร่วมด้วยจึงทำให้เกิดเสียงกรนออกมา พอมีการถอนพิษร้อนออกกล้ามเนื้อคลายตัวเลือดลมสามารถไหลเวียนได้สะดวก อาการนอนกรนก็จะหายไป
อาการสะอึกก็เหมือนกันเมื่อ ลมไปคั้นอยู่ที่ปอดมากๆ ทำให้ความร้อนไปค้างอยู่ที่กะบังลม และมีการถ่ายความร้อนไปที่เส้น สุมมะนา ทำให้สะอึก
ในสมัยโบราณเมื่อมีการสะอึกจะนิยมให้กินน้ำ เพื่อไปดับความร้อนแต่หากเป็นมากๆ กินน้ำก็ไม่สามารถทำให้หายได้ หรือการทำให้ตกใจ เมื่อมีการตกในทำให้ความร้อนถูกบีบออก ก็ทำให้หายสะอีกได้ หรืออาจจะมีการกดเส้นลมปราณต่าง ๆ ร่วมด้วยก็จะทำให้หายสะอึกได้เช่นกัน
ท้องผูกก็เกิดจากความร้อนเผาน้ำในลำไส้ให้แห้ง และเผาลำไส้ให้ล้า พอน้ำในลำไส้แห้งก็มีการขับออกได้ยากเกิดความเหนียว และติด เหมือนกับอุจาระเมื่อไม่มีน้ำราดในโถส้วมก็จะเหนียวและติด นี้ก็เช่นเดียวกันและยิ่งมีการเผาลำไส้ทำให้ลำไส้ไม่มีกำลังด้วยแล้วก็ยิ่งทำให้ไม่มีแรงในการขับอุจจาระ ออกมา เมื่อเราทำการถอนพิษร้อนออก ลำไส้ก็จะมีน้ำ ลำให้ก็จะมีแรงในการขับของเสียออกมาทำให้ถ่ายได้เอง ช่วงแรก อาจจะมีการทำดีท็อกซ์ การกินน้ำย่างนาง เพื่อช่วยทำให้ร่างกายเย็นลงเมื่อลำให้แข็งแรงก็จะมีการถ่ายได้เอง ตามปรกติ

๓.โรคภูมิแพ้เป็นหวัด
เกิดจากร่างกายมีสภาวะร้อนมาก ยกตัวอย่างเช่นเมื่อคนกินอาหารรสเผ็ด มากๆ จะทำให้น้ำมูกไหล ทำไมถึงน้ำมูกไหล ก็เพราะมีความร้อน และความร้อนนั้นระบายออกมาที่ปอดและหลอดลม ผ่านจมูก
พอความร้อนระบายออกก็เกิดการระคาย พอเกิดการระคาย ร่างกายก็จะส่งน้ำมาดับไฟ มาดับความระคาย มาดับความร้อน น้ำที่ส่งมาเลยกลายเป็นน้ำมูก
เราก็ต้องน้ำมูกนั้นออกไป พอเป็นมากๆ เข้า และไม่ยอมหยุดของร้อนเชื้อโรคมากขึ้นๆ ก็ทำให้น้ำมูกกลายเป็น สีเหลือง สีเขียวนั้นเพราะเชื้อโรคมีการขยายตัวอีกทีหนึ่ง แต่หากเชื้อโรคไม่มีการขยายน้ำมูกก็จะเป็นสีใสๆ เมื่อเป็นอย่างนั้นก็ให้สั่งน้ำมูกนั้นออกไป ดังนั้นคนที่กินของร้อนอยู่บ่อยๆ ก็จะเป็นหวัดเรื้อรังอยู่เรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้น พอไปหาหมอก็จะให้ยาแก้แพ้มากดเอาไว้กดไว้อย่างนั้น ไม่ว่ายาแก้หอบหืด ยาแก้ผื่นคัน ยาต่างๆ เหล่านี้เมื่อความร้อนไปที่ไหนก็จะมีการสั่งประสาทให้พิษร้อนกลับไปที่เก่า
เมื่อเราใส่พิษร้อนเข้าไปอีก ร่างกายก็ต้องการระบายออกอีกแต่ก็ไม่สามารถระบายออกได้ เมื่อเป็นนานๆ เข้า ก็จะมีโรคอื่นแทรกซ้อนหรืออาจจะกลายเป็นมะเร็งในที่สุด เพราะว่าพิษร้อนได้มีการอัดผังไว้ตลอดเวลาไม่ได้ระบายออกไปที่ใดเลยอีกทั้งมีการเพิ่มความร้อนอยู่ตลอดเวลาทำให้ร่างกายทรุดโทรมลงเรื่อยๆ การแก้ไข ก็แค่ใส่เย็นและลดร้อนลงก็จะหายได้ และในคนไข้บางรายจะเป็นหวัดเฉพาะแค่ช่วงตอนเช้าเท่านั้น ซึ่งก็เกิดจากร่างกายมีความร้อน แต่หลายคนเข้าใจผิดว่าเกิดจากเย็นเกิน การเป็นหวัดตอนเช้าก็เพราะร้อนเกิน พอร่างกายร้อนมาก ๆ แต่พอเราตื่นตอนเข้าอากาศจะเย็นแต่ร่างกายจะร้อนมากเมื่อความร้อนกับความเย็นมาเจอกันก็จะมีการวิ่งสวนทางกัน เมื่อมีการเคลื่อนสวนทางกันก็จะเกิดการระคาย พอเกิดการระคายร่างกายก็จะส่งน้ำมาดับความระคาย แต่เมื่อมีอาการเช่นนี้เกิดขึ้น คนก็จะไปกินของร้อน เช่น ไปกินขิง ทำให้ความร้อนมีการเพิ่มอัดเข้าไป วันหน้าคุณก็จะเป็นใหม่เพราะมีการอัดของร้อนเข้าไปซ้ำๆ อย่างนี้ แต่เมื่อคุณถอนพิษร้อนออกเพิ่มความเย็นเข้าไปอาการดังกล่าวก็จะหายไป
ในบางครั้งตอนเช้าถ้าเรามีอาการหนาวสะท้านก็ให้กินสิ่งที่มีฤทธิ์เย็นแล้วกดน้ำร้อนใส่เข้าไปก็ได้แล้วค่อยกิน เมื่อสายๆ หน่อยเราก็กินผักสดธรรมดา เท่าที่เรารู้สึกสบาย ให้ทำตามการถอนพิษร้อนตามยา 9 เม็ด ความร้อนก็จะลดลง หวัดก็จะหายไป หรือแม้แต่ โรคไซนัส ก็เหมือนกัน แต่นี้เป็นถึงขั้นติดเชื้อแล้ว หากคุณไปผ่าตัด ไปล้างออก แต่ยังมีการใส่พิษร้อนเข้าร่างกาย เรื่อยๆ โรคก็จะกลับมาเหมือนเดิมแต่หากได้ใช้วิธียา 9 เม็ด ไซนัส ก็สามารถหายได้โดยไม่ต้องมีการผ่าตัด

          แต่ภูมิแพ้ทั้ง 3 แบบนี้ ถ้ามันเกินตอนอากาศร้อนอบอ้าว เกิดผื่นแพ้ และคันขึ้น เกิดหอบหืดขึ้น เกิดเป็นหวัดขึ้น อย่างนี้ให้ใช้สมุนไพรฤทธิ์เย็นสดแก้ไปได้เลย หรืออาหารฤทธิ์เย็นสดกินเข้าไปได้เลย แต่ถ้าอาการแพ้นั้นเกิดจากการกระทบกับอากาศเย็นอย่าใช้สมุนไพรสดฤทธิ์เย็นแก้โดยเด็ดขาดเพราะมันจะไม่ค่อยได้ผลและจะยิ่งแย่
          หากเกิดอาการอย่างนี้ให้เราใช้เย็นผ่านไฟหรือใช้สมุนไพรฤทธิ์เย็นผสมกับสมุนไพรฤทธิ์ร้อนเล็กน้อยเพราะมันเกิดจากเหตุเย็นมากระทบ และร่างกายของเราปรับตัวไม่ทันความร้อนกับความเย็นเคลื่อนสวนทางกัน เพราะร่างกายจะมีความหนาวแทรกอยู่บ้างเหมือนกันเพื่อที่จะเป็นสามารถปรับตัวได้ไวก็ให้ใช้เย็นผ่านไฟ  เพราะฉะนั้นเพื่อพบคนไข้ที่เป็นโรคหอบหืดก็ให้ดูว่าเป็นในช่วงเวลาไดเพื่อที่จะสามารถรักษาได้อย่างถูกต้อง เพราะความหนาวที่มากระทบนั้นแหละทำให้ร่างกายแร่งผลิตความร้อนขึ้นมาเพื่อสู้กับความหนาวเมื่อเร่งความร้อนขึ้นมามันก็จะร้อนเป็นทวีคูณเพราะฉะนั้นเมื่อเราใส่ ความอุ่นเข้าไปมันก็จะไปสู่กับความหนาวได้พอดีโดยที่ร่างกายไม่ต้องมีการผลิตความร้อนขึ้นมา

การแพ้อาหารก็เหมือนกัน
        ส่วนใหญ่คนจะแพ้อาหารทะเล อาหารที่มีฤทธิ์ร้อน และอาหารทะเลจะมีคลอเรสเตอรรอล มีโซเดียม สูง มันจะร้อนมาก คนจะแพ้บ่อยและก็ตายง่าย เมื่อไม่ทราบสาเหตุก็จะมีการใช่ยามากดอาการ กดโรคเอาไว้ จากผลของยา สุดท้ายก็จะมีโรคแทรกซ้อน แต่คนส่วนใหญ่ก็จะไปโทษขนหมา ขนแมว ขนไก่ ซึ่งความจริงมันไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ในคน แต่ในสั่งต่างๆ มันจะเป็นสัตว์เลือดอุ่นเพราะฉะนั้นความร้อนต่างๆ มันก็จะไปสะสมอยู่ที่ขนจึงทำให้ขนของสัตว์ร้อนกว่าส่วนอื่น เมื่อขนของสัตว์มาโดน ตัวคุณเองก็มีความร้อนอยู่แล้วก็เลยมีความร้อนเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ก็เลยทำให้มีอาการแพ้ขึ้นมา แต่หากคุณไม่มีความร้อนเพื่อไปโดนขนสัตว์ก็จะไม่เป็นอะไร

ที่มา:  เพจหมอเขียว-ตอบปัญหาสุขภาพกายใจ (คลิ๊ก)

Monday, June 4, 2018

อยากทราบตารางจัดค่ายสุขภาพมีจัดที่ไหนบ้าง

ถาม 
อยากทราบตารางการจัดค่ายสุขภาพแพทย์วิถีธรรมมีจัดที่ไหนบ้าง

ตอบ 
ท่านสามารถติดตามตารางการจัดค่ายสุขภาพได้ที่
 http://www.morkeaw.net/ (คลิ๊ก) (ใช้ได้ทุกปี)
และ
http://morkeaw-course2562.blogspot.com/ (คลิ๊ก) (ชื่อลิงค์นี้เฉพาะปี พ.ศ. 2562) 


คู่มือเข้าค่ายสุขภาพแพทย์วิถีธรรม

เตรียมความพร้อมก่อนเข้าค่ายด้วยการศึกษาคู่มือเข้าค่ายสุขภาพแพทย์วิถีธรรม

มีอะไรในคู่มือเข้าค่ายสุขภาพ (คลิ๊ก)

ที่มาของแพทย์วิถีธรรม
เป้าหมายการจัดอบรม
ข้อควรทราบและปฏิบัติเมื่อมาเข้าค่ายสุขภาพ
ตารางกิจกรรมเข้าค่ายสุขภาพ 
เทคนิคการดูแลสุขภาพ 9 ข้อ หรือ ยา 9 เม็ด
อาการเจ็บป่วยแยกตามภาวะไม่สมดุลร้อน-เย็น
หลักปฏิบัติในการรับประทานอาหาร เพื่อสุขภาพที่ดี
ประเภทของอาหาร แบ่งตามฤทธิ์ร้อน-เย็น
สาเหตุของความเสื่อม/ความเจ็บป่วย/อาการไม่สบาย
การปรับพฤติกรรม เพื่อสุขภาพที่ดีตามหลักแพทย์วิถีธรรม
พฤติกรรมร้อน-เย็น
สูตรอาหารปรับสมดุลตามหลักแพทย์วิถีธรรม
ฯลฯ

แพทย์วิถีธรรม / ยา 9 เม็ดคืออะไร

คำถาม แพทย์วิถีธรรม / ยา 9 เม็ดคือ อะไร

ตอบ
แพทย์วิถีธรรม เป็นการดูแลสุขภาพแบบพึ่งตนที่นำเอาจุดดีของวิทยาศาสตร์สุขภาพ แผนปัจจุบัน แผนไทย แผนทางเลือก และแผนพื้นบ้าน รวมถึงหลัก 8 อ.เพื่อสุขภาพที่ดีของสถาบันบุญนิยม นำมาบริหารจัดการ องค์ความรู้ ประยุกต์ผสมผสาน บูรณาการด้วยพุทธธรรม และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยให้เหมาะสมและสามารถแก้ไขวิกฤตปัญหาสุขภาพที่ต้นเหตุ นำไปสู่การปฏิบัติที่ ประหยัด ปลอดภัย เรียบง่ายได้ผลเร็ว แก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ พึ่งตนเองได้ ใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นเป็นหลักและมีความยั่งยืน

ตัวชี้วัดการมีสุขภาพดีคือ 
สบาย เบากาย มีกำลัง เป็นอยู่ผาสุก

เพราะหมอที่ดีที่สุดคือตัวเราเอง
 



 

ท่านสามารถศึกษาข้อมูล ยา 9 เม็ดได้ตามลิงค์ต่าง ๆ ดังนี้

http://www.morkeaw.net/ (คลิ๊กกดดูรายละเอียด)
http://fansclubmorkeaw.blogspot.com/ (คลิ๊ก)
*ยา 9 เม็ด เทคนิค 9 ข้อ หมอเขียว จัดทำโดยโครงการอนุรักษ์พันธุ์กรรมพืช (คลิ๊ก)
ข้อมูลแพทย์วิถีธรรม ภาษาอังกฤษ (คลิ๊ก) 



ไม่เคยไปเข้าค่าย ช่วยแนะนำข้อควรทราบก่อนการเข้าค่าย

ข้อควรทราบก่อนการเข้าค่าย




 



1. ทางค่ายมีนโยบายไม่รับผู้ป่วยหนัก หรือผู้ป่วยที่เป็นโรคติดต่อ เช่น โรคเอดส์ วัณโรค เป็นต้น
กรุณาให้ญาติผู้ป่วยมาเรียนรู้แทน ทางศูนย์เป็นศูนย์เรียนรู้สุขภาพพึ่งตน มิใช่สถานพยาบาลจึง ไม่มีนโยบายรับรักษาผู้ป่วย

2. ผู้ป่วยที่ช่วยตัวเองไม่ได้  ต้องมีญาติมาดูแลด้วย

2.ทุกค่ายอาจมีการปรับเปลี่ยนข้อมูลในภายหลัง โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้ากรุณาเช็คข้อมูลในเว็ปก่อนสมัคร และก่อนการเดินทาง
 
3. ร่วมรณรงค์งดใช้ถุงพลาสติกภายในค่าย (ขอให้นำถุงผ้ามาใช้) เพื่อลดการใช้ถุงพลาสติก กับโครงการสุขภาพดี ลดขยะให้เป็นศูนย์


4. ค่ายสุขภาพทุกค่ายที่จัด แนะนำให้นำอุปกรณ์ส่วนตัวมาใช้เอง ได้แก่ เต้นท์หรือมุ้ง ผ้าห่ม เครื่องนอนส่วนตัว ผ้าห่ม จาน/ชาม ช้อน ขวดน้ำดื่มส่วนตัว ถ้าต้องดื่มน้ำร้อนให้พกกระติกเก็บความร้อนมาด้วย  เตรียมถุงเท้าไว้ใส่ สำหรับท่านที่เกรงพื้นเย็น เสื้อกระดุมผ่าหน้า 1 ตัว ผ้าขนหนูผืนยาวสำหรับเช็ดตัว



5. ควรศึกษาข้อมูลการเดินทาง และการเตรียมตัวก่อนเข้าค่ายจาก


6. สำหรับค่ายสุขภาพที่จัดอบรม ๓ – ๙ วัน ก่อนสมัครท่านควรมั่นใจว่าท่านสามารถอยู่อบรมในค่ายได้ครบตลอดทั้งหลักสูตร ๓ – ๙ วัน เพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง


7. กรณีค่ายที่มีการสมัครผ่าน email: suanpanaboon.app@gmail.com กรุณากรอกรายละเอียดตามด้านล่างให้ครบเพื่อความสะดวกของท่าน
1. ชื่อ-สกุล 2. อายุ 3. ที่อยู่ 4.อาชีพ 5.การศึกษา
6. หมายเลขโทรศัพท์ /อีเมล์
7.โรคประจำตัวและหรืออาการไม่สบาย
8.เป้าหมายการอบรม 9.ทราบข่าวการรับสมัครจากที่ไหน
10.โปรแกรมค่ายช่วงวันที่ต้องการร่วมอบรม
11. เคยเข้ากิจกรรมค่ายสุขภาพแล้วกี่ครั้ง
เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลครบจะแจ้งเลขที่การจอง กลับไปให้ทางอีเมล์

 8.  หน่วยงานหรือองค์กรเอกชนหรือเครือข่าย สนใจเข้าอบรมในค่ายสุขภาพ กรุณาติดต่อคุณนิตยาภรณ์ โทร 086-877-5727 , คุณหลิน โทร 088-030-4812 (ติดต่อทางไลน์ที่ 081-611-3213)


9. ค่ายสุขภาพแพทย์วิถีธรรม ทุกค่าย ให้การอบรมให้ความรู้ฟรีกับประชาชน

10.  ท่านใดที่จองเข้ามาแล้วไม่สามารถเดินทางมาได้ ให้แจ้งกลับข้อมูลไปยังผู้รับสมัคร เพื่อเปิดโอกาสให้ท่านอื่นได้เข้ารับการอบรม



การเตรียมตัวก่อนเข้าอบรม

1. ฝึกลดหรืองดการรับประทานเนื้อสัตว์ และลดการปรุงแต่งรสอาหารจากเดิมให้จืดลง ประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนเข้าอบรม
 2. เตรียมเสื้อผ้าสวมใส่สบาย แต่งกายสุภาพทั้งท่านหญิงและชาย (ห้ามสวมเสื้อคอลึก-แขนกุด คอกระเช้า สายเดี่ยว  ห้ามนุ่งกางเกงสั้น/ กระโปรงสั้น ดูได้จากเมื่อนั่งแล้วความยาวกางเกง/กระโปรงต้องปิดหัวเข่าถึงหน้าแข้งให้เรียบร้อย และห้ามสวมเสื้อผ้ารัดรูป)  อนึ่งศาลาบรรยายที่สวนป่านาบุญ ๑ เป็นพื้นปูน ท่านสามารถใส่ถุงเท้ากันความเย็นจากพื้นได้

3. นำเสื้อมีกระดุมหน้ามา 1 ตัวสำหรับการฝึกปฏิบัติการถอนพิษร้อนทางผิวหนังที่แผ่นหลัง 
 ข้อควรทราบและปฏิบัติเมื่อมาเข้าค่าย

1. ลงทะเบียนกรอกใบสมัคร พร้อมยื่น บัตรประชาชน หรือบัตรที่ทางราชการออกให้เพื่อแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ขณะลงทะเบียนเข้าค่าย
2.  รักษาความสะอาดภายในศูนย์ฯ และห้ามน้ำสัตว์ทุกชนิดเข้ามาภายในศูนย์
3.  แยกทิ้งขยะให้ถูกที่  แยกขยะสดขยะแห้ง (ขยะสดจะนำไปทำปุ๋ยเพื่อปลูกผัก ขยะแห้งสามารถนำไปรีไซเคิลทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือ ขายได้)
4. ห้ามสูบบุหรี่และสิ่งเสพติดในศูนย์ฯ เด็ดขาด
5. กรุณาอย่านำเนื้อสัตว์ ไข่ นม เข้ามารับประทานในศูนย์ฯ
6. ช่วงเข้าค่ายควรรับประทานอาหารตามที่ศูนย์ฯ จัดไว้ให้ ซึ่งอาหารในค่ายสุขภาพเป็นอาหารไม่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์ นม ไข่ และน้ำมัน
7. กรุณาช่วยกันประหยัดการใช้น้ำ-ไฟฟ้า
8. ห้ามประกอบธุรกิจที่หารายได้กับผู้เข้าค่ายในศูนย์ฯ เช่น ขายตรง เป็นต้น ขอให้มีน้ำใจ เกื้อกูล แบ่งปัน ดูแลกันโดยไม่คิดค่าตอบแทน
 9. ขอความร่วมมือตรวจสุขภาพพื้นฐานทุกท่าน ได้แก่ การชั่งน้ำหนัก วัดรอบเอว วัดความดัน  (ฟรี)
10. กรอกข้อมูลลงในใบประเมินผลการเข้าค่ายส่งให้เจ้าหน้าที่หลับจบค่าย
11. ร่วมช่วยกัน ทำ 5 ส ก่อนกลับบ้าน

 หมายเหตุ 
ในค่ายสุขภาพแพทย์วิถีธรรมทุกค่าย 
ผู้เข้าร่วมอบรมสามารถนำสมุนไพรฤทธิ์เย็น เช่น 
ย่านาง ใบเตย อ่อมแซบ เป็นต้น ตลอดทั้งพืชผัก ผลไม้ที่ไร้สารพิษมาร่วมบุญเข้าโรงครัวได้ 
โดยให้โทรแจ้งให้ผู้ประสานงานแต่ละค่ายทราบ
เพื่อการจัดการเตรียมวัตถุดิบของค่ายที่เหมาะสม

คำถามเกี่ยวกับโรคเบาหวาน

โรคเบาหวาน



#โรคเบาหวาน

#เกิดจากร้อนเกิน เมื่อร่างกายร้อนมาก ๆ ร่างกายจะไม่ยอมเผาน้ำตาลให้เป็นพลังงานเพราะว่าหากมีการเผาน้ำตาลให้เป็นพลังงานก็จะเป็นการเพิ่มความร้อนให้กับร่างกายเข้าไปอีกเพราะว่า น้ำตาล 1 กรัมจะให้ความร้อน 9 แคลลอรี่ ร่างกายจึงไม่ยอมเผาผลานน้ำตาลให้เป็นพลังงาน เมื่อไม่มีการเผาผลานน้ำตาลทำให้ทำตาลค้างอยู่ในเส้นเลือด

#พอน้ำตาลค้างอยู่ในเส้นเลือดน้ำตาลก็จะหนืดการไหลเวียนของเลือดลมก็จะไม่สะดวกเซลล์เราก็จะตายแล้วจะเกิดการ ช็อค เพราะว่าเมื่อน้ำตาลมาก ๆ น้ำจากเม็ดเลือดของเราจะรั่วออกมาหาน้ำตาลและน้ำตาลก็จะรั่วและเคลื่อนเข้าไปที่เม็ดเลือดพอเกิดการผสมกันทำให้เม็ดเลือดเสียน้ำ เกิดการแตกตายทันที ส่วนประกอบของเลือดแตกตายและช็อคตายทันที

#การรักษาของหมอแผนปัจจุบันก็จะให้ยาเพื่อไปกดน้ำตาลเอาไว้พอกินยาลดน้ำตาลตัวยาจะไปสั่งให้ตับอ่อนหลั่ง อินซูลีน ออกมาเพื่อให้ไปจับน้ำตาลที่เซลล์แล้วเกิดกระบวนการ เคฟไซโค หรือกระบวนการเผาผลานน้ำตาลให้เป็นพลังงาน พอน้ำตาลถูกเผา น้ำตาลก็ลดลง แต่เซลล์ก็จะถูกเผาตายไปด้วยเพราะเดิมที่ร่างกายก็ร้อนอยู่แล้วจนร่างกายไม่ยอมเผาน้ำตาลเพิ่ม

#เพราะฉะนั้นน้ำตาลก็ลดจริงแต่เซลล์จะเสื่อมแทน จึงเป็นได้ว่าหากไม่มีการรักษาที่ต้นเหตุปัญหาก็จะไม่จบ เป็นอันว่าเซลล์เสื่อมแทนร่างกายก็จะเสื่อมแทน ทุกส่วนของร่างกายจะเสื่อมหมดเหมาะมีการเผาผลานความร้อนมากเกินกว่าปรกติ พอร่างกายร้อนได้ที่ในปริมาณหนึ่งร่างกายจะไม่ยอมเผาผลานน้ำตาลต่อให้กินยาก็จะไม่มีการเผาน้ำตาลอีกแล้วเพราะว่าร่างกายร้อนมากแล้ว

#กินยาอย่างไรก็จะเป็นมีการเผาน้ำตาลอีกแล้ว แพทย์ก็จะเปลี่ยนยาตัวใหม่ที่แรงกว่าเดิมให้กันคนไข้ หมุนเวียนอยู่อย่างนี้เรื่อย ๆ เข้าจะเกิดการดื้อยาในที่สุด คนไข้ก็จะต้องฉีกยาในที่สุด โดยการฉีก อินซูลีน เข้าไปโดยตรงเพื่อเผาผลานน้ำตาล แต่ร่างกายร้อนมากอยู่แล้วทำให้ร่างกายเกิดการต่อต้าน อินซูลีน

#ดังนั้น อินซูลีนที่ฉีดเข้าไปก็ไม่ได้ผลสุดท้ายก็จะมีการเจาะเลือด ตรวจเป็นระยะ ๆ และไตจะวายในที่สุด พอไตวายก็จะมีการล้างไต ฟอกไตเพื่อรอวันตายอย่างเดียว ก่อนที่ไตจะวาย ผลจากการกินยารักษาโรคบัวหวานจะทำให้น้ำตาลเกิดการค้างเยอะทำให้ร่างกายเกิดการสลายตัวเองให้เป็นพลังงาน สลายเนื้อเยื่อ สลายโปรตีนให้เป็นพลังงาน

#ผลผลิตจากการสลายโปรตีนให้เป็นพลังงานจะได้แอมโมเนีย และแอมโมเนีย ก็จะเป็นสารพิษที่ร้ายแรง หากไหลไปที่ตับ ตับจะวาย ไหลไปที่ไต ไตก็จะวาย ไหลไปที่ตา ตาก็จะบอด ไปที่เซลล์ เซลล์ก็จะเสื่อม เมื่อไปที่ไตปัสสาวะออกมา ฉี่จะมีกลิ่นฉุน ๆ ยาที่เป็นพิษและแอมโมเนียในร่างกายก็จะถูกขับออกที่ไต ทำให้ไตวายเพราะเหตุนี้เองคนไข้ที่เป็นโรคบัวหวานร่างกายทุกส่วนจะเสื่อมหมด เราจะรักษา ได้อย่างไร จะแก้อย่างไร


#วิธีแก้ก็คือการรักษาตามแบบของแพทย์วิธีพุทธ โดยให้แก้ที่ต้นเหตุ ให้ใส่เย็นลดร้อน เพราะต้นเหตุเกิดจากร่างกายมีสภาวะร้อนเกิน โดยใส่ในปริมาณที่พอดี ให้มีพลังชีวิตเต็มที่สุด เมื่อร่างกายเย็นลงร่างกายก็จะยอมเผาผลานน้ำตาลให้เป็นพลังงาน เพราะว่าร่างกายมีความเย็นที่จะดูดซับความร้อนออกได้ ร่างกายของคนเราก็คล้าย ๆ กับเครื่องยนต์ เครื่องยนต์ก็มีร้อน มีเย็น ร่างกายของคนเราก็เช่นกัน

#หากจะให้เครื่องยนต์ทำงานได้ดีก็ต้องมีความร้อนคือ น้ำมัน และเมื่อเครื่องยนต์มีการทำงานเครื่องก็จะร้อน แต่ก็จะมีความเย็นก็คือหม้อน้ำเพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิของเครื่องยนต์ ให้ทำงานได้ตามปรกติ ร่างกายคนเราก็เหมือนกันกับเครื่องยนต์เมื่อร่างกายมีหม้อน้ำนั้นก็คือความเย็นร่างกายก็จะสามารถทำงานได้ตามปรกติ มีประสิทธิภาพ คงทนยาวนาน

#แต่หากมีการทำงานอย่างเดียวไม่มีหม้อน้ำเครื่องยนต์ก็จะพังเช่นกัน ดังนั้น ชีวิตคนก็ควรจะมีทั้งหยิง และหยาง ร่วมกันจะทำให้มีพลังงานแข็งแรง สามารถทำกิจการงานได้ และเซลล์ก็จะไม่เสื่อมง่าย อะไรคือร้อน ร้อนก็เช่น ข้าว แป้ง น้ำตาล เผือก มัน โปรตีน ไขมัน จะให้พลังงาน สารหรือพลังงานที่อยู่ในผัก และผลไม่ฤทธิ์ร้อนก็จะให้พลังงาน สิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นหยาง เป็นสิ่งที่ให้พลังงานแก่ร่างร่าง

#ส่วนสิ่งที่เป็นหยิง เป็นความเย็นก็คือธาตุ ต่าง ๆ พลังงานต่าง ๆ ที่อยู่ในผักหรือสมุนไพรฤทธิ์เย็น เพราะฉะนั้นร่างกายของคนเราก็ต้องการทั้งร้อนและเย็น ในปริมาณที่พอดีร่างกายก็จะแข็งแรง คงทน ยาวนานเป็นธรรมดา


#แต่คนในยุคปัจจุบันนี้ใส่พลังความร้อนให้กับร่างกายมากว่าความเย็น เพราะฉะนั้นโรคที่เกิดขึ้นในยุคนี้ส่วนใหญ่ เกิดจากความร้อนที่เกินพอดี ทำให้ร่างกายเกิดความล้าและเป็นโรคต่าง ๆ ขึ้นมา หากมีการเติมสิ่งที่มีฤทธิ์เย็นเข้าไปให้กับร่างกายโรคต่าง ๆ ก็จะหายได้


#ผู้ป่วยที่มีค่าน้ำตาลเพิ่มขึ้นในวันสุดท้ายก็อย่าพึ่งเป็นกังวล เพราะนั้นเป็นการกวาดพิษของร่างกายโดยร่างกายจะมีกวาดพิษทิ้งออกทางปัสสาวะ ทางที่ต่าง ๆ ของร่างกายและน้ำตาลก็จะค่อย ๆ ลดลงไปเองโดยให้ดูจากพลังชีวิตของเราเป็นหลัก หากมีพลังชีวิตดีก็ไม่ต้องเป็นกังวล แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่ว่าเราไมไม่กินยาหรือทิ้งยาไปเสียทีเดียว

#หากคนไข้รายได ที่ไม่กินยาแล้วพลังชีวิตตก เช่นความดันในสมองขึ้นมากจนเกินไปก็ให้กินยาไว้ก่อนอย่าทิ้งเสียทีเดียว หรือน้ำตาลมากเกินไปเป็นต้น แต่ก็ให้ดูที่พลังชีวิตเป็นหลักหากน้ำตาลนั้นทำให้พลังชีวิตตกเส้นเสือดในสมองอาจจะแตกได้ก็สามารถกินยาเพื่อเป็นการควบคุมไว้ก่อนเพราะเมื่อเรากินยาแล้วรู้สึกว่ามีความสบายมากว่าก็ให้กินยาได้เช่นกัน

#แต่ก็ให้ทำพร้อม ๆ กับการถอนพิษร้อนควบคู่กันไปด้วยพอเริ่มสดชื่นขึ้น พลังชีวิตดีขึ้น อย่างนั้นจึงค่อยเริ่มลดยาที่กินลง ทุกอย่าง ก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นไปเองโดยที่ไม่ทำร้ายคนไข้มากไป โรคทุกอย่างหากเรามีพลังชีวิตดีก็ไม่ต้องไปสนใจค่าต่าง ๆ ที่ขึ้นมาให้เราสนใจในพลังชีวิตของเราเองว่าเป็นอย่างไรแล้วจึงเลือกวิธีที่จะนำมาใช้ไห้เกิดประโยชน์สูงสุด

ดร.ใจเพชร กล้าจน(หมอเขียว)
นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญกา
ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์วิถีธรรม
วิชชาธิการบดี สถาบันวิชชาราม


ที่มา  เพจหมอเขียว-ตอบปัญหากายใจ2

มีช่องทางรับข้อมูลข่าวสารแพทย์วิถีธรรม อะไรบ้าง

คำถาม มีช่องทางรับข้อมูลข่าวสารแพทย์วิถีธรรม อะไรบ้าง ตอบ  1.  http://www.morkeaw.net/ 2. รับชมการถ่ายทอดสด การแพทย์วิถีธรรม ได้ทางช่...